ต้องถือว่าเป็นการปรับเปลี่ยนโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ เมื่อ “ทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์” ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งซีอีโอ มีผล 1 ก.พ.ปี 65 พร้อมผลักดัน “อุเทน โลหชิตพิทักษ์” นั่งแทนในตำแหน่ง CEO รองรับแผนการขับเคลื่อนองค์กรสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน จับตารุกธุรกิจใหม่เสริมความแข็งแกร่ง โชว์ไตรมาส 3 รายได้ธุรกิจอสังหาฯ-รพ.ปรับตัวดีขึ้น กำไรสุทธิงวด 3 เดือน และ 9 เดือนปรับตัวสูงขึ้น
นายไพศาล รำพรรณ์ เลขานุการบริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PSH แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ถึงผลการประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 9/2565 ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ได้มีมติสำคัญ ได้แก่ การปรับปรุงโครงสร้างคณะกรรมการบริหารใหม่ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 11 พ.ย.ที่ผ่านมา เนื่องจากที่ประชุมได้รับทราบ นายทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ได้ขอลาออกจากตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มและประธานกรรมการบริหาร โดยมีผลเป็นการลาออกตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.2566 เป็นต้นไป โดยหลังการลาออก นายทองมา ยังคงมีตำแหน่งเป็นรองประธานกรรมการบริษัท กรรมการสรรหาและพิจารณาค่าตอบแทน กรรมการกำกับการบริหารความเสี่ยง กรรมการบริหารและกรรมการผู้มีอำนาจลงนาม
ทั้งนี้ ที่ประชุมยังได้มอบหมายให้นายอุเทน โลหชิตพิทักษ์ ขึ้นมาดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริหารแทนนายทองมา แต่ยังคงดำรงตำแหน่งกรรมการบริหารต่อไป
อนึ่ง สำหรับนายอุเทน เป็นผู้บริหารระดับมืออาชีพ ที่มีประสบการณ์และเชี่ยวชาญในธุรกิจอสังหาฯ และการลงทุนทั้งในและต่างประเทศจากเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ดำเนินธุรกิจอสังหาฯ ครบวงจรรายใหญ่ในประเทศไทย) ซึ่งการปรับเปลี่ยนโครงสร้างการบริหารครั้งนี้สะท้อนให้เห็นเป้าหมายของนายทองมา ที่ต้องการขับเคลื่อนธุรกิจของพฤกษา มุ่งไปสู่การเติบโตที่ยั่งยืนและสามารถแข่งขันในตลาดเลขเด็ด อาจารย์ดัง เข้าทุกงวดได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการขยับไปสู่ธุรกิจใหม่ๆ ที่จะเติมเติมศักยภาพให้พอร์ตแสนล้านบาทของพฤกษา
ณ วันที่ 30 ก.ย.65 กลุ่มธุรกิจอสังหาฯ มีโครงการที่เปิดขายและยังเสนอขายอยู่ จำนวน 129 โครงการ มูลค่ารวม 132,558 ล้านบาท
ในส่วนของธุรกิจโรงพยาบาลภายใต้แบรนด์ ‘วิมุต’ นายอุเทน ได้มีการประกาศแต่งตั้งผู้บริหารระดับสูงใหม่ 3 ตำแหน่งไปก่อนหน้านี้
Q3 รายได้ธุรกิจอสังหาฯ-รพ.ปรับตัวดีขึ้น
ด้าน น.ส.สุรวีย์ ชัยธำรงค์กูล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการเงินกลุ่มบริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PSH กล่าวถึงผลประกอบการในไตรมาส 3 ปี 65 มีผลการดำเนินเงินเติบโตขึ้นจาก 2 ธุรกิจหลัก ซึ่งรายได้จากการขายอสังหาฯ เท่ากับ 6,430 ล้านบาท รายได้จากกิจการโรงพยาบาล 330 ล้านบาท และรายได้อื่น 72 ล้านบาท รวมรายได้เท่ากับ 6,832 ล้านบาท ซึ่งธุรกิจอสังหาฯ มีรายได้เพิ่มขึ้นจากการโอน 3 โครงการคอนโดมิเนียม มูลค่ารวมกว่า 8,915 ล้านบาท สำหรับธุรกิจโรงพยาบาลมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ในไตรมาส 3 บริษัทมียอดขายรวม 3,044 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 51.6 และรอบ 9 เดือนของปีนี้ ยอดขายรวม 5,523 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 27.5 ซึ่งยอดขายลดลงจากกลุ่มผลิตภัณฑ์ทาวน์เฮาส์ และอาคารชุดเป็นหลัก ส่วนในรอบ 9 เดือน บริษัทมีรายได้จากการขายอสังหาฯ เท่ากับ 17,211 ล้านบาท รายได้จากกิจการโรงพยาบาล 777 ล้านบาท และรายได้อื่นๆ รวมรายได้เท่ากับ 18,201 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 6.1
กำไรไตรมาส 3 เพิ่มขึ้นร้อยละ 87.3 อัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาส 3 เพิ่มมาอยู่ที่ร้อยละ 30.9 เพิ่มขึ้นจากการโอนธุรกิจอสังหาฯ ที่มีอัตรากำไรสูง และรอบ 9 เดือน อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 30.5 ส่งผลให้กำไรส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ในไตรมาส 3 จำนวน 619 ล้านบาท และรอบ 9 เดือน จำนวน 1,601 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 87.3 และ 17.3 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน